เครื่องวัดฝุ่นและก๊าซไอเสียจากปล่องระบายในเครื่องเดียว testo 380
เครื่องวัดฝุ่นและก๊าซไอเสียจากปล่องระบายในเครื่องเดียว testo 380
เครื่องวัดฝุ่นและก๊าซไอเสียจากปล่องระบายในเครื่องเดียว
|
โดยทั่วไปแล้วการมอนิเตอร์หรือทำการตรวจวัดปริมาณฝุ่นที่ปล่องระบายในรูปแบบต่างๆ ตั้งแต่ระบบขนาดเล็กจนถึงระบบที่มีขนาดใหญ่เป็นสิ่งหนึ่งที่ควรคำนึงถึง เนื่องจากเป็นปัจจัยนึงที่ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อม และบ่งบอกถึงประสิทธิภาพการทำงานของระบบในกระบวนการผลิตที่มีการปลดปล่อยของเสียต่างๆ ออกจากปล่องระบาย โดยจำเป็นที่จะต้องใช้เครื่องมือสำหรับการวัดปริมาณฝุ่นที่สามารถทำการคัดกรองขนาดของอนุภาคฝุ่นได้ โดยทั่วไปมีขนาดตั้งแต่ 100 ไมครอนลงมา ซึ่งอนุภาคฝุ่นดังกล่าวเมื่อถูกปล่อยสู่บรรยากาศจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของคน สัตว์ ทำให้เกิดความเสียหายต่ออาคารบ้านเรือน สร้างความเดือดร้อนต่อประชาชน รวมทั้งยังทำให้เกิดอุปสรรคในส่วนของการคมนาคมขนส่งต่างๆ
ดังนั้น ในหลายๆ ประเทศจึงได้มีการกำหนดมาตรฐานฝุ่นละอองในบรรยากาศขึ้น สำหรับในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยองค์กร US.EPA (United State Environmental Protection Agency) ได้มีการกำหนดค่ามาตรฐานของฝุ่นรวม (Total Suspended Particulate) และฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า10ไมครอน (PM10) แต่ในปัจจุบันได้มีการศึกษาวิจัยพบว่าฝุ่นขนาดเล็กนั้น จะเป็นอันตรายต่อสุขภาพมากกว่าฝุ่นรวม เนื่องจากสามารถผ่านเข้าไปในระบบทางเดินหายใจ และมีผลต่อสุขภาพมากกว่าฝุ่นรวม ดังนั้น US.EPA จึงได้มีการยกเลิกค่ามาตรฐานฝุ่นรวม และกำหนดค่าฝุ่นขนาดเล็ก
โดยฝุ่นละอองขนาดขนาดเล็กสามารถแบ่งย่อยออกได้เป็น 2 ชนิด คือ ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) และฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) อ้างอิงจากสำนักอนามัยสิ่งแวดล้อม กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข โดยให้คำจัดกัดความของอนุภาคฝุ่นแต่ละชนิดไว้ กล่าวคือ PM10 ตามคำจำกัดความของ US.EPA หมายถึง ฝุ่นหยาบ (Course Particle) ซึ่งมีขนาดของเส้นผ่านศูนย์กลางตั้งแต่ 2.5 – 10 ไมครอน โดยเกิดจากการสัญจรบนถนนต่างๆ ที่ไม่ได้ทำการลาดยาง ส่วน PM2.5 ตามคำจำกัดความของ US.EPA หมายถึง ฝุ่นละเอียด (Fine Particle) โดยมีขนาดของเส้นผ่านศูนย์กลางตั้งแต่ 2.5 ไมครอนลงมา โดยส่วนใหญ่แล้วจะเกิดจากควันเสียของรถยนต์ โรงไฟฟ้าโรงงานอุตสาหกรรม ควันที่เกิดจากการหุงต้มอาหารโดยใช้ฟืน นอกจากนี้ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2) ออกไซด์ของไนโตรเจน (NOX) และสารอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs) จะทำปฏิกิริยากับสารอื่นในอากาศทำให้เกิดเป็นฝุ่นละเอียดได้
ดังนั้น เพื่อทำการตรวจวัดปริมาณของอนุภาคฝุ่นดังกล่าว เราจึงขอเสนอเครื่องมือวัดฝุ่นที่สามารถทำการวัดบริเวณที่มีการปลดปล่อยมลพิษหรือก๊าซไอเสียตามจุดปล่อยต่างๆ รวมถึงที่ปล่องระบายในทุกขนาดด้วยเครื่อง testo 380 Fine Particle Analyzer ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์จากทางแบรนด์ testo ประเทศเยอรมนี ที่สามารถทำการวัดปริมาณฝุ่นที่มีขนาดตั้งแต่ 10 ไมครอนลงมาจนถึง 2.5 ไมครอนได้ ผ่านหลักการของ Impactor-Oscillating crystal-Principle ซึ่งใช้หลักการดูดฝุ่นผ่านหัวคัดขนาด(nozzle) ที่ใช้หลักการตกกระทบด้วยแรงเฉื่อย (Inertial Impaction) เพื่อให้ได้ฝุ่นที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางตามที่กำหนด จากนั้นฝุ่นจะตกสะสมบนแผ่น oscillating crystal โดยที่ oscillating crystal จะถูกทำให้สั่นโดยการจ่ายกระแสไฟเข้าไป ซึ่งอนุภาคฝุ่นที่ตกลงมาก็จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการสั่นสะเทือนหรือก็คือ เกิดการเปลี่ยนแปลงความถี่นั่นเอง ถูกนำไปคำนวณกลับเป็นค่าเฉลี่ยของฝุ่นละอองใน บรรยากาศ ทำให้เทคนิคมีระยะเวลาตอบสนองที่รวดเร็วโดยใช้เวลาในการวัดในแต่ละรอบเพียง 1 วินาทีเท่านั้น
Sensor Module
Impactor-Oscillating Crystal-Principle
โดยมีอุปกรณ์ประกอบหลัก 3 อุปกรณ์ด้วย ได้แก่
1. testo 330-2 LL ที่เป็นตัวทำหน้าที่ในการสั่งการทำงานของเครื่องมือต่างๆ และทำการแสดงผลการวัดต่างๆ ผ่านหน้าจอแบบสี โดยจะถูกวางไว้ใน measuring box ผ่านการเชื่อมต่อโพรบที่ทำการดูดอนุภาคฝุ่นเข้ามา และสามารถถอดออกมาเพื่อทำความสะอาดตัวเครื่องได้ด้วยเช่นกัน
2. Probe ทำหน้าที่ในการ sampling หรือดูดอนุภาคฝุ่นเข้ามาผ่านสายโพรบเพื่อทำการตรวจวัดที่ sensor วัดฝุ่นที่ถูกติดตั้งอยู่ที่ Measuring box โดยมี sensor ที่สามารถวัดอุณหภูมิได้ติดตั้งอยู่ที่ปลายโพรบ
3. Measuring box ทำหน้าที่ในการให้ความร้อนแก่โพรบเพื่อให้ได้อุณหภูมิที่เหมาะสมกับการเก็บตัวอย่างอนุภาคฝุ่น เป็นที่ติดตั้งตัว sensor วัดฝุ่น และอุปกรณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องไว้ภายในกล่อง และเป็นตัวกลางในการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ เข้าด้วยกัน
นอกจากนี้ตัวอุปกรณ์ testo 330-2 LL ยังเป็นอุปกรณ์ที่เรียกว่า Flue Gas Analyzer ซึ่งเป็นเครื่องวัดประสิทธิภาพการเผาไหม้ ที่มีการติดตั้ง sensor สำหรับวัดปริมาณของก๊าซไอเสียต่างๆ ไว้ภายในตัวเครื่อง ทำให้สามารถใช้วัดปริมาณของก๊าซไอเสียต่างๆ ได้ ประกอบไปด้วย ก๊าซ O2, CO2, CO และ NO รวมถึงสามารถคำนวณค่าประสิทธิภาพการเผาไหม้ของตัวอุปกรณ์ต่างๆ ของลูกค้า เช่น หม้อไอน้ำ เตาเผา หรือเครื่องจักรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการเผาไหม้ เพื่อทำการปรับปรุงประสิทธิภาพการเผาไหม้ของเครื่องจักรต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น ช่วยในการลดต้นทุนการใช้เชื้อเพลิง และควบคุมปริมาณการปลดปล่อยมลพิษที่เกิดจากก๊าซไอเสียดังกล่าวได้
testo 380 จึงจัดเป็นอุปกรณ์ในลักษณะแบบ 2 in 1 ที่สามารถวัดทั้งปริมาณของอนุภาคฝุ่น และปริมาณของก๊าซไอเสียต่างๆ รวมถึงหาค่าประสิทธิภาพการเผาไหม้ได้ภายในเครื่องเดียว
ส่วนประกอบต่างๆ ของอุปกรณ์โดยละเอียด
บริษัท เอ็นเทค อินดัสเทรียล โซลูชั่น จำกัด ได้รับแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ testo จากประเทศเยอรมนี รวมถึงการบริการหลังการขายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย testo Thailand
สนใจผลิตภัณฑ์ติดต่อ
หน่วยงานเอกชน คุณพณิชรัตน์ โทร. 092-282-3339
หน่วยงานราชการ คุณนันท์นภัส โทร. 092-282-3223
ลูกค้าภาคตะวันออก คุณลัดดาวัลย์ โทร. 092-248-9991
หรือ Line ID : @entech