หลักการเลือกโพรบวัดความเร็วลม

หลักการเลือกโพรบวัดความเร็วลม

คุณมักพบปัญหาในการเลือกโพรบวัดความเร็วลมหรือไม่?
ต้องการวัดความเร็วลม แต่ไม่รู้ว่าจะต้องใช้อุปกรณ์อะไรในการวัด เพราะหัววัดความเร็วลมนั้นมีหลายแบบ หลายประเภทด้วยกัน โดยปกติการวัดความเร็วลมนั้นมักจะทำการวัดกันอยู่ในช่วง 0 ถึง 100 m/s ซึ่งเราสามารถแบ่งความเร็วลมออกเป็น 3 ช่วงหลัก ได้แก่
• ช่วงความเร็วลมต่ำ มีค่าความเร็วลมตั้งแต่ 0-5 m/s
• ช่วงความเร็วลมปานกลาง มีค่าความเร็วลมตั้งแต่ 5-40 m/s
• ช่วงความเร็วลมสูง มีค่าความเร็วลมตั้งแต่ 40-100 m/s
นอกเหนือจากนี้ อุณหภูมิก็เป็นตัวแปรอีกตัวหนึ่งที่มีผลต่อการเลือกหัววัดความเร็วลม
บทความฉบับนี้ เราจะพาทุกท่านไปรู้จักความแตกต่างและวิธีการเลือกหัววัดความเร็วลมในแต่ละประเภทกันค่ะ

  1. Thermal probe/Hot wire probe หรือหัววัดความเร็วลมแบบลวดความร้อน

หลักการของ Thermal probe หรือ Hot wire probe นี้ จะมีลวดความร้อนที่มีการทำอุณหภูมิให้คงที่ เมื่อมีลมพัดผ่านลวดความร้อนนี้จะทำให้ลวดเย็นตัวลง เกิดความแตกต่างของอุณหภูมิ อัตราการเปลี่ยนแปลงความร้อนที่เกิดขึ้นที่เส้นลวดแปรผันตรงกับอัตราเร็วของลมที่เคลื่อนที่ผ่านหัววัด สำหรับการวัดในช่วงความเร็วลมต่ำ โดยหัววัดแบบ Thermal probe ของ testo สามารถวัดความเร็วได้ตั้งแต่ 0 – 20 m/s และใช้งานที่อุณหภูมิสูงสุดถึง 70°C

หากมีการนำโพรบชนิดนี้ไปใช้ในท่อมีความการไหลแบบปั่นป่วน จะทำให้ผลการวัดมีค่าสูงกว่าแบบใบพัด เนื่องจากเกิดผลกระทบจากความเร็วลมในทุกทิศทางกับลวดความร้อน

  2. Vane probe หรือหัววัดความเร็วลมแบบใบพัด

หลักการของ Vane probe จะแปลงการหมุนของใบพัดเปลี่ยนเป็นสัญญาณทางไฟฟ้า โดยหัววัดแบบใบพัดจะมีเส้นผ่านศูนย์กลางหลายขนาด เช่น 16 mm, 100 mm ขึ้นอยู่กับหน้างานที่ใช้ เหมาะสำหรับการวัดในช่วงความเร็วลมปานกลาง อาจจะมีการไหลแบบปั่นป่วน เช่น บริเวณหน้ากริล โดยหัววัดแบบใบพัดของ testo ช่วงการวัดจะไม่ได้เริ่มจาก 0 เนื่องจากจะมีเรื่องของแรงเสียดทานในขณะที่ใบพัดเริ่มหมุนซึ่งจะเรียกว่า Start-up fault

  3. หัววัดความเร็วลมแบบ Pitot tube

Pitot tube ใช้หลักการวัดโดยอาศัยแรงดันต่างในท่อเพื่อหาค่า dynamic pressure ซึ่งมีหลักๆ 3 รูปแบบให้เลือกใช้งาน คือ แบบตรง, Type L และ Type S โดยแต่ละชนิด จะมีค่า Pitot tube factor ที่แตกต่างกัน หากนำไปใช้งานจำเป็นต้องป้อนข้อมูลของ factor เข้าไปคำนวณหาค่าความเร็วลมด้วย เช่น Pitot tube type L มีค่า factor เท่ากับ 1.0, แบบตรง มีค่า factor เท่ากับ 0.67 และการวัดความเร็วลมโดยใช้ Pitot tube เครื่องมือนั้นๆจะต้องสามารถวัดค่า differential pressure ได้  Pitot tube เหมาะสำหรับการวัดในช่วงความเร็วลมสูง หรือมีอุณหภูมิที่มากกว่า 350°C หรือหน้างานที่มีฝุ่นปริมาณมาก

เครื่องมือวัดลมที่สามารถใช้กับโพรบวัดลมข้างต้นได้

สนใจผลิตภัณฑ์หรือสอบถามเพิ่มเติมติดต่อ : คุณพณิชรัตน์ โทร. 092-282-3339 หรือ Line ID : @entech

[seed_social]

Chat with us on LINE

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save